นิยาม “เมืองอัจฉริยะ” เมืองที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยและชาญฉลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการและการบริหารจัดการเมือง ลดค่าใช้จ่ายและการใช้ทรัพยากรของเมืองและประชากรเป้าหมาย โดยเน้นการออกแบบที่ดี และการมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจและภาคประชาชนในการพัฒนาเมือง ภายใต้แนวคิดการพัฒนา เมืองน่าอยู่ เมืองทันสมัย ให้ประชาชนในเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข อย่างยั่งยืน
ประเทศไทยกำลังเดินหน้าพัฒนา “เมืองอัจฉริยะ” หรือ “Smart City” อย่างเต็มตัว โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เป็นหน่วยงานที่ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ในระยะแรกได้พัฒนาแล้ว 7 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา และกรุงเทพฯ โดยมีแผนในปี 2562 เตรียมจะขยายไปสู่ 24 จังหวัด 30 พื้นที่ และภายในปี 2565 จะขยายไปทั่วประเทศ 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร รวม 100 พื้นที่
ลักษณะของเมืองอัจฉริยะ 7 ด้าน คือ
- สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment)
- เศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy)
- พลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy)
- การบริหารภาครัฐอัจฉริยะ (Smart Governance)
- การดำรงชีวิตอัจฉริยะ (Smart Living
- การเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility)
- พลเมืองอัจฉริยะ (Smart People)
สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) หมายถึง เมืองที่คำนึงถึง ผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการอย่างเป็น ระบบ เช่น การจัดการน้ำ การดูแลสภาพอากาศ การบริหาร จัดการของเสีย และการเฝ้าระวังภัยพิบัติ ตลอดจนเพิ่ม การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
เศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy) หมายถึง เมืองที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในระบบเศรษฐกิจและบริหารจัดการ ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เมืองเกษตรอัจฉริยะ เมืองท่องเที่ยวอัจฉริยะ เป็นต้น
พลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) หมายถึง เมืองที่สามารถบริหารจัดการด้านพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความสมดุล ระหว่างการผลิตและการใช้พลังงานในพื้นที่เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานและลดการพึ่งพาพลังงานจากระบบโครงข่ายไฟฟ้าหลัก
การบริหารภาครัฐอัจฉริยะ (Smart Governance) หมายถึง เมืองที่พัฒนาระบบบริการภาครัฐ เพื่ออำนวยความสะดวก แก่ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของภาครัฐ โดยมุ่งเน้น ความโปร่งใสและการมีส่วนร่วม และมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องผ่านการประยุกต์ใช้นวัตกรรมบริการ
การดำรงชีวิตอัจฉริยะ (Smart Living) หมายถึง เมืองที่มีการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกโดยคำนึงถึงหลักอารยสถาปัตย์ (Universal Design) ให้ประชาชนมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี มีความปลอดภัย และมีความสุขในการดำรงชีวิต
การเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) หมายถึง เมืองที่มุ่งเน้นพัฒนาระบบจราจรและขนส่งอัจฉริยะเพื่อขับเคลื่อนประเทศ โดยเพิ่มประสิทธิภาพและความเชื่อมโยงของระบบขนส่งและการสัญจรที่หลากหลาย เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางและขนส่ง รวมถึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
พลเมืองอัจฉริยะ (Smart People) หมายถึง เมืองที่มุ่งพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะ และสิ่งแวดล้อม ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจตลอดจนเปิดกว้างสำหรับความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และการมีส่วนร่วมของประชาชน
กระทรวงมหาดไทย จับมือ การอุดมศึกษาฯ นำเทคโนโลยี สวทช. พัฒนาเมืองอัจฉริยะช่วยบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมเมือง นับเป็นความร่วมมือกันทางด้านบริหารจัดการเมืองแบบอัจฉริยะ หรือ Smart City ของประเทศไทย โดยเป็นการจับมือกันระหว่าง 2 กระทรวง คือ กระทรวงมหาดไทย (มท.) และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้ลงนามความร่วมมือใน “โครงการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเมืองและบริการประชาชน” เพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของเนคเทคภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พัฒนาขึ้นมาใช้ในการพัฒนาเมือง เป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาสู่เมืองอัจฉริยะ โดยนำเทคโนโลยี Big Data ด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมของเมืองและชุมชนมาส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นำไปใช้ประโยชน์
โดยความร่วมมือดังกล่าวนำร่องด้วยแอพพลิเคชั่น Traffy Fondue ให้ประชาชนใช้แจ้งปัญหาและข้อร้องเรียนด้านสิ่งแวดล้อมของเมืองและชุมชน และระบบ Traffy Waste เครื่องมือบริหารจัดการการเก็บขยะ ช่วยให้บริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของเมืองและชุมชนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นจากผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นระบบมากขึ้น
ทั้งนี้ แอพพลิเคชั่น Traffy Fondue และระบบ Traffy Waste เป็นเทคโนโลยีที่อยู่ในกลุ่ม Traffy City Platform หรือแพลตฟอร์มการบริหารจัดการเมืองด้วยเทคโนโลยีและข้อมูล ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยนักวิจัยเนคเทค สวทช. นำโดย ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม หัวหน้าทีมวิจัยระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ ซึ่งจุดเด่นของเทคโนโลยีอยู่ที่การเพิ่มความเป็นอัจฉริยะหรือความสมาร์ทให้กับเมืองโดยเชื่อมสิ่งที่ประชาชนพบเห็นว่าเป็นสิ่งที่ควรปรับปรุงนำส่งไปให้ถึงผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ เพื่อให้สามารถเข้าใจความต้องการและแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงเป็นการพัฒนาเมืองด้วยความช่วยเหลือจากหลายฝ่ายที่เข้าถึงง่ายไม่ซับซ้อน ตอบสนองจุดที่เป็นปัญหาและสร้างความยุ่งยาก (Pain Point) ของประชาชนผู้อยู่อาศัย พนักงานผู้ดูแล และผู้บริหารได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ Traffy Fondue แพลตฟอร์มแจ้งซ่อมและบริหารจัดการปัญหาเมือง เป็นแอพพลิเคชั่นรับเรื่องแจ้งซ่อมและบริหารจัดการปัญหา ที่ช่วยลดระยะเวลา ขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหา ทำให้ผู้บริหารเมืองเข้าถึงใจของประชาชน โดยเพิ่มช่องทางแจ้งปัญหาเมืองจากประชาชนถึงเจ้าหน้าที่โดยตรง โดยหลังแจ้งปัญหาแล้วประชาชนยังสามารถติดตามสถานะการดำเนินการแก้ไขได้ผ่าน LINE@ และแอพพลิเคชั่น ซึ่งหน่วยงานภาครัฐจะได้ข้อมูลที่เพียงพอสำหรับบริหารจัดการปัญหาของประชาชน เช่น ภาพถ่ายตำแหน่งบนแผนที่ มีผลให้เจ้าหน้าที่สามารถแก้ปัญหาได้สะดวกรวดเร็วขึ้น เนื่องจากผู้บริหารมีภาพรวมและข้อมูลในการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับนำไปใช้ในอาคาร สำนักงาน คอนโดฯ หมู่บ้าน โรงงาน โรงเรียน และโรงพยาบาลโดยแพลตฟอร์มการสื่อสารดังกล่าว สามารถใช้งานได้โดยการแจ้งปัญหาผ่านแอพพลิเคชั่นหรือผ่าน Line Chat ถ่ายรูปปัญหา ตำแหน่งที่เกิดปัญหา พร้อมการแจ้งเตือน รวมถึงรับทราบความก้าวหน้าของการแก้ไข ซึ่งข้อมูลที่ได้จากระบบสามารถนำมาเป็นบทวิเคราะห์ทางสถิติที่ช่วยรวบรวบข้อมูลปัญหาและการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการตัดสินใจในการลงทุนเพื่อแก้ปัญหาได้
ส่วน Traffy Waste ระบบจัดการการเก็บขยะอัจฉริยะ เป็นแพลตฟอร์มบริหารงานและวางแผนจัดเก็บขยะ ด้วยเทคโนโลยี AI วิเคราะห์ข้อมูลจากการติดตามตำแหน่งรถเก็บขยะด้วย Multi-GNSS บันทึกเส้นทางและประวัติการเก็บขยะ วิเคราะห์พฤติกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บขยะ ประชาชนและเจ้าหน้าที่สามารถรับการแจ้งเตือนจุดเก็บขยะที่สนใจได้ สามารถทำงานร่วมกับระบบ Traffy Fondue โดยแจ้งปัญหาขยะล้นถังและขยะเกลื่อนกลาด ผ่าน LINE@ และแอพพลิเคชั่นได้ ทำให้ประชาชนค้นหาจุดทิ้งขยะใกล้บ้านพร้อมเวลาจัดเก็บประจำ ตรวจสอบประวัติและสถิติการเก็บขยะ รับแจ้งเตือนการเก็บขยะผ่าน LINE และช่วยรายงานขยะล้นถัง ขยะเกลื่อนกลาด ผ่าน Traffy Fondue ได้ โดยทางเทศบาล อบต. และนิคมอุตสาหกรรม จะมีข้อมูลภาพรวมการจัดเก็บขยะและประสิทธิภาพการทำงาน ทำให้ทราบพฤติกรรมทำงานของรถเก็บขยะ รวมถึงรับรู้จุดแจ้งเตือนเก็บขยะสำคัญที่ไม่ถูกจัดเก็บ พร้อมยังสามารถบันทึกประวัติการจัดเก็บและสถิติเก็บขยะ พร้อมแนะนำเส้นทางที่ประหยัดเชื้อเพลิงได้ด้วย ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวถือเป็นเครื่องมือสำหรับผู้ให้บริการจัดเก็บขยะทั้งที่เป็นส่วนภาครัฐ (การปกครองส่วนท้องถิ่น นิคมอุตสาหกรรม) และภาคเอกชน (ผู้ให้บริการจัดเก็บขยะ ผู้ให้เช่ารถขยะสำหรับใช้บริหารและติดตามการใช้งานทรัพยากร เช่น คน และรถขยะ) สามารถนำผลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน และลดต้นทุนค่าน้ำมันได้
ข้อมูล :
เมืองอัจฉริยะประเทศไทย : https://smartcitythailand.or.th/
สถาบันดำรงราชานุภาพ สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย : http://www.stabundamrong.go.th/
Green Network : https://www.greennetworkthailand.com/